ค่าใช้จ่ายตลอดหลักสูตร ท่านละ 5,500 บาท

ธรรมชาติกับการเยียวยา เป็นการหลอมรวมสามกิจกรรมเข้าด้วยกัน คือ
                ธรรมชาติบำบัด เป็นศิลปะแห่งการดำเนินชีวิตและเป็นการเยียวยา กาย จิตและจิตวิญญาณ โดยใช้ธรรมชาติและอาศัยสิ่งแวดล้อมใกล้ตัวเป็นปัจจัยเกื้อหนุน กระบวนการรักษาใช้ อาหาร อากาศ การออกกำลังกาย การพักผ่อนที่ถูกต้อง แสงแดดและน้ำ ซึ่งตั้งอยู่บนหลักการที่ว่าร่างกายและจิตใจที่อยู่ในสภาวะที่สมดุลจะมีศักยภาพและพลังในการเยียวยาได้ทุกโรค
                การเจริญภาวนา  เครื่องมือแห่งการรู้จักตนเอง เพื่อนำไปสู่การหลุดพ้นจากอดีตและก้าวข้ามสิ่งที่เรียกว่าอนาคต มีเพียงปัจจุบันขณะเท่านั้นที่เป็นเวลาอันประเสริฐสุด
                โยคะ  ศาสตร์แห่งการรู้จักตนเอง เป็นการผสานระหว่างกายกับจิตให้เกิดความสมดุล เพื่อช่วยเพิ่มพูนความแข็งแกร่งของจิตใจและความแข็งแรงให้ร่างกายเป็นการช่วยกระตุ้นระบบการทำงานให้กับอวัยวะต่างๆของร่างกายทั้งภายในและภายนอก ซึ่งแตกต่างจากการออกกำลังกายทั่วไป

หลักการที่สำคัญของโยคะแนวไกวัลยธรรม คือ นิ่ง สบาย ใช้แรงแต่น้อย และประโยชน์สูงสุด

กระบวนการ
                ทดลองปฏิบัติ  บรรยาย  แลกเปลี่ยนแบ่งปันประสบการณ์ความเจ็บป่วยและการรักษา กิจกรรมผ่านประสบการณ์ และซักถาม
ทดลองปฏิบัติ เช่น ฝึกโยคะพื้นฐานหรือปัญจลีลา ล้างคอ ล้างจมูก  ล้างตา อาบแดด แช่หลัง แช่สะโพก รับประทานอาหารตามแนวทางธรรมชาติบำบัดโดย มื้อเช้าและเย็น รับประทานผลไม้ มื้อกลางวันรับประทานอาหารมังสวิรัติ งดเครื่องดื่ม ชา กาแฟ แอลกอฮอล์ น้ำอัดลม นม เครื่องดื่มบำรุงกำลังและอาหารเสริมทุกชนิด

เนื้อหา
                - โยคะพื้นฐาน
                - ความหมายของธรรมชาติบำบัดและการเชื่อมโยงธรรมชาติภายนอกกับธรรมชาติภายใน
                - องค์ประกอบและกระบวนการทำงานของร่างกาย
                - สาเหตุของความเจ็บป่วย
                - การดูแลตนเองตามแนวธรรมชาติบำบัดในชีวิตประจำวัน
                - ประโยชน์ของการสวดมนต์และการภาวนา
                - สุขภาพเรา และสุขภาพสังคม

ทีมวิทยากร

               เพียงพร   ลาภคล้อยมา     วิทยากรธรรมชาติกับการเยียวยา
                 พ.ศ.๒๕๓๑            เข้ารับการผ่าตัดเนื้องอกในรังไข่และมดลูกจึงหันมาสนใจวิถีธรรมชาติตามแนวการแพทย์ทางเลือก
                 พ.ศ.๒๕๓๗           เข้ารับการอบรมอานาปานสติภาวนา ได้เรียนรู้เรื่องอาหารกับการปฏิบัติธรรม
                 พ.ศ.๒๕๓๘           เรียนรู้วิธีการใช้อาหารและวิธีการเพื่อความปลอดภัยทางกายและจิต
                 พ.ศ.๒๕๔๖            เข้ารับการอบรมธรรมชาติบำบัดกับหมอเจคอบ วาทักกันเชรี นักธรรมชาติบำบัดจากอินเดีย
                 พ.ศ.๒๕๔๗           ศึกษาดูงานการดูแลผู้ป่วยด้วยอาหารและกระบวนการตามแนวทางธรรมชาติที่ศูนย์นวชีวัน รัฐเค-ราล่า อินเดียใต้เป็นเวลา ๒ เดือน
                 ปัจจุบัน  ใช้หลักธรรมะควบคู่กับการปรับการเรียนรู้แพทย์แผนต่างๆให้เข้ากับวิถีชีวิตแบบไทยเพื่อการพึ่งตนเองเริ่มต้นการเป็นวิทยากรธรรมชาติกับการเยียวยาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๔๗

และให้คำปรึกษาผู้ป่วยตามแนวธรรมชาติบำบัด

               วัลรา  ปีปทุม    วิทยากรโยคะสายไกวัลยธรรม
                 ศึกษาโยคะสายไกวัลยธรรมจากมูลนิธิหมอชาวบ้าน และไปเรียนโยคะที่สถาบันไกวัลยธรรม ที่ประเทศอินเดีย เป็น เวลา ๖ เดือน รู้จักธรรมชาติบำบัดโดยการเป็นอาสาสมัครสอนโยคะในการอบรมธรรมชาติบำบัดโดยหมอเจคอบ วาทักกันเชรี นักธรรมชาติบำบัดจากอินเดีย จากประสบการณ์ที่ได้สอนโยคะและเรียนรู้จากหมอเจคอบ วาทักกันเชรี ทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิตตามแนวธรรมชาติบำบัด พบว่าส่งผลดีต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิต เริ่มเป็นครูสอนโยคะให้กับกลุ่มบุคคลทั่วไป

               ทีมงานจากอาศรมวงศ์สนิท      
                 พ.ศ. ๒๕๔๖ -๒๕๔๘           จัดอบรมธรรมชาติบำบัด  วิทยากร หมอเจคอบ วาทักกันเชรี นักธรรมชาติบำบัดจากอินเดีย 
                 พ.ศ. ๒๕๔๗ –ปัจจุบัน         จัดอบรมธรรมชาติกับการเยียวยา โดยปรับองค์ความรู้จากธรรมชาติบำบัดตามแนวหมอเจคอบ วาทักกันเชรี ให้สอดคล้องกับวิถีคนไทย